หนังสือแปลเกาหลี

แนะนำหนังสือ : ที่จริงวันนี้ก็ดีนะ

หนังสือ “ที่จริงวันนี้ก็ดีนะ” แปลมาจากหนังสือภาษาเกาหลีชื่อ “그래도 괜찮은 하루” เขียนเรื่องและวาดภาพโดย คุณคูคย็องซ็อน หรือนามปากว่า “นักเขียนคู” แปลเป็นภาษาไทยโดย คุณธัชชา ธีรปกรณ์ชัย และจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บลูม

คลิกดูคลิปวีดีโอสรุปหนังสือ “ที่จริงวันนี้ก็ดีนะ” ได้ที่นี่

บนหน้าปกหนังสือฉบับภาษาเกาหลี มีคำโปรยไว้ว่า 소리를 잃고 빛을 잃어도 나에겐 아직 따뜻한 손이 남아 있어! “앞으로 더 잘 부탁해”

  • 그래도 – ถึงแม้อย่างนั้นก็ตาม
  •  괜찮다 – ดี, ใช้ได้, ไม่เลว
  •  하루 – หนึ่งวัน, ทั้งวัน
  •  소리 – เสียง
  •  잃다 – เสีย, ทำหาย
  •  빛 – แสง, แสงสว่าง
  •  따뜻하다 – อบอุ่น
  •  부탁하다 – ขอร้อง, รบกวน, ฝากทำ

คุณคูคย็องซ็อน หรือ “นักเขียนคู” ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้เล่าเรื่องราวของตนเองผ่าน “เบนนี่” กระต่ายหูโต ที่ผู้เขียนบอกว่าเหตุผลที่วาดหูของเบนนี่ให้มีขนาดใหญ่พิเศษเพราะตนเองไม่อาจได้ยินเสียงใด ๆ บนโลกจึงวาดกระต่ายให้มีหูใหญ่โตเพื่อช่วยรับฟังเรื่องราวต่าง ๆ แทน เธอเล่าว่าหลังจากป่วยหนักตอนอายุ 2 ขวบ ก็สูญเสียการได้ยินและไม่สามารถพูดได้ จึงมักวาดรูปเพื่อบอกสิ่งที่ต้องการกับคนอื่นอยู่บ่อย ๆ และเธอยังต้องลาออกจากโรงเรียนแอนิเมชั่นที่รักมาก และเมื่อพยายามจะสมัครงานก็ถูกปฏิเสธอยู่เสมอ

เธอจึงเริ่มเขียนบล็อกและใช้นามปากกว่า “นักเขียนคู” และต่อมาเธอก็กลายเป็น “นักเขียนครีเอตโปรโฟล์” ของเว็บไซต์ Cyworld ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับแชร์รูปภาพหรือข้อมูลส่วนตัว นักเขียนครีเอตโปรไฟล์ก็ทำหน้าที่ดูแลพื้นหลังของหน้าเว็บหรือธีมของเว็บและรูปประจำให้ลูกค้าที่ต้องการธีมในรูปแบบของตนเอง

เธอจดจ่อกับการทำงานและสามารถสร้างรายได้จากการทำงานอยู่บ้านตลอด 9 เดือนเต็ม แล้วคนก็เริ่มเล่น Cyworld น้อยลง เธอก็กลับมาว่างงานอีกครั้ง แต่แทนที่เธอจะใช้ชีวิตกับความสิ้นหวัง เธอกลับลุกขึ้นมาทำโปรเจกต์เผยแผ่ศาสนาผ่านศิลปะ ด้วยความตั้งใจที่อยากจะมอบความกล้าและความหวังแก่ผู้อื่นโดยเฉพาะเด็ก ๆ

หลังจากเริ่มทำโปรเจกต์ไม่นานเธอก็เริ่มมองไม่เห็นในเวลากลางคืน และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม แค่อาการหูหนวกเพียงอย่างเดียวก็แย่พอแล้ว ยังจะโดนพรากดวงตาที่แสนสำคัญไปอีก

เช้าวันต่อมาที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดในใจ เธอมองเห็นความสวยงามของหิมะกำลังตก เธอรู้สึกขอบคุณที่วันนี้ยังมองเห็นอยู่ เธอจึงตัดสินใจว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะเริ่มมีความสุขเพื่อตัวเอง จะไม่เสียใจหรือเสียดายอะไรทั้งนั้น แม้ดวงตาจะมืดมิดก็จะใช้ชีวิตแบบไม่มีอะไรมาติดค้างในใจ”

เธอจึงเริ่มเขียนรายการสิ่งที่ทำได้ตอนที่ตายังมองเห็นและสิ่งที่อยากทำ เช่น มีห้องทำงานเป็นของตัวเอง  ต้มซุปสาหร่ายให้แม่ ตามหาเพื่อนที่แยกจากกันไป ลดน้ำหนัก ทำใบขับขี่ ไปเที่ยวในที่ที่อยากไป ไปเที่ยวกับครอบครัว วิ่งมาราธอน ตามหาหนังสือเล่มเก่าในวัยเด็ก พบเจอผู้คนมากมาย และทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่เคยทำ

เธอรู้สึกขอบคุณที่ได้เห็นชีวิตที่เรียบง่ายในแต่ละวันที่ถูกมองข้าม และรู้สึกมีความสุขเพราะมีสิ่งต่างๆ มากมายที่ต้องการทำทุกวัน เธอจึงรอคอยวันพรุ่งนี้ด้วยความหวังที่ตื่นเต้นเสมอ

แม้จะสูญเสียทั้งการได้ยินและการมองเห็น แต่เธอก็ใช้ชีวิตในแต่ละวันสร้างความสุขให้กับตัวเอง และเผื่อแผ่ความสุขให้กับคนอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งอยากจะแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองกับผู้คนทั่วโลกให้ได้รับรู้ถึงความรักและความหวัง

นักเขียนคูบอกว่า คนเราทุกคนล้วนมีเรื่องที่อยากทำ แต่เพราะคิดว่าทำเมื่อไหร่ก็ได้ เราก็เลยผัดวันไปเรื่อย ๆ  แต่พอลองคิดว่าถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา เรื่องที่ไม่เคยคิดมาก่อนก็อาจจะกลายเป็นเรื่องที่มีความหมายขึ้นมาทันที

เธอจึงชวนให้เราลองนึกถึงสิ่งที่อยากทำก่อนตาย แล้วใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีค่าและมีความสุข เหมือนกับตัวเธอที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ไร้เสียงและโลกใบนั้นก็กำลังจะไร้แสง แต่เธอก็ไม่เสียใจเพราะเธอยังมีมือที่อบอุ่นเหลืออยู่ ยังมีปาก และยังมีจมูกที่รับกลิ่นได้ เธอจึงตั้งใจจะใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุขต่อไป

ขอให้สนุกกับการอ่านหนังสือและการเรียนภาษาเกาหลี และขอให้ทุก ๆ วัน เป็นวันที่ดีของทุก ๆ คนค่ะ ^^

ต้องการอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ คลิกที่นี่ค่ะ